เริ่มต้นการเป็นตัวแทนประกันชีวิต

อาชีพตัวแทนประกันชีวิต เป็นอย่างไร 

ผลกระทบของโควิด-19 ผมเชื่อเหลือเกินว่า ทุกวันนี้คงไม่มีใครไม่ตระหนักแล้วว่า การมีรายได้ทางเดียวเป็นอะไรที่สุ่มเสี่ยงมาก

 เพราะแม้แต่อาชีพที่เป็นงานประจำ ก็ไม่สามารถการันตีความมั่นคงได้อีกต่อไป การมีแหล่งรายได้เสริมที่มีศักยภาพ จึงอาจจะเป็น “ทางรอด” มากกว่า “ทางเลือก”


อาชีพ “ตัวแทนประกันชีวิต” ก็น่าจะเป็น 1 ในอาชีพอันดับต้นๆที่คนส่วนใหญ่จะนึกถึง (นอกเหนือจากการค้าขาย) เพราะเป็นอาชีพอิสระ 

ที่ไม่มีข้อจำกัดด้านวุฒิการศึกษาหรือประสบการณ์หากจะสมัครเข้ามาทำ ทำให้เข้าถึงได้ง่าย และที่สำคัญที่เป็นจุดที่น่าสนใจ

 คือ เป็นงานที่มีโอกาสสร้างรายได้สูงตามความสามารถ มีศักยภาพที่จะพัฒนาจากอาชีพเสริมเป็นอาชีพหลักได้ สำหรับคนที่มุ่งมั่นตั้งใจ ซึ่งตอบโจทย์คนที่ต้องการทำอาชีพอิสระได้เป็นอย่างดี

วันนี้ดิฉันจึงขอเล่าสู่กันฟัังอาชีพ “ตัวแทนประกันชีวิต” กัน โดยการให้ข้อมูลของอาชีพนี้อย่างละเอียดที่สุด
เริ่มตั้งแต่เรื่อง การเตรียมตัวก่อนเข้ามา / แนวทางการฝึกอบรมของบริษัท / แนวทางการทำงานในแต่ละวัน / โครงสร้างรายได้ / เส้นทางการพัฒนาตัวเอง
 ไปจนถึงเรื่องของทัศนคติ และคุณสมบัติต่างๆ เพื่อสรุปว่า อาชีพนี้ เหมาะกับใคร และทำอย่างไรถึงน่าจะประสบความสำเร็จในอาชีพได้


“การเตรียมตัว”
ก่อนที่เราจะเข้ามาเป็นตัวแทนประกันชีวิตได้นั้น เราจำเป็นต้องมีใบอนุญาต “ตัวแทนประกันชีวิต” ก่อน จึงจะสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
 เราจึงต้องไปสอบเป็น ตัวแทนประกันชีวิตให้ผ่านก่อน ซึ่งเราสามารถเตรียมตัวได้จากการหาอ่านตำรา หรือทำตัวอย่างข้อสอบ ที่ทาง “ฝ่ายขาย”
จัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งฝ่ายขายนี้ ก็เปรียบเสมือนทีมย่อยๆแต่ละทีมภายในบริษัทประกัน แต่ละหน่วยก็จะมีบริหารหน่วยคอยดูแล (เปรียบเสมือนผู้เป็น “หัวหน้า”งานของเรา) หากเราสนใจจะเป็นตัวแทนประกันชีวิต ก็สามารถติดต่อเข้าไปยังหน่วยประกันที่สนใจ หรือสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ กับไทยประกันชีวิตที่มีให้บริการ


“การฝึกอบรมตัวแทนใหม่”
หลังจากที่เราเลือกบริษัท เลือกฝ่ายขาย และสอบเป็นตัวแทนประกันชีวิตผ่านแล้ว ส่วนใหญ่ทางบริษัทแต่ละที่ ก็จะมีโปรแกรมฝึกฝนให้กับตัวแทนใหม่ทุกคน

 โดยเริ่มจากการสอนแบบประกันต่างๆของทางบริษัท รวมถึงรายละเอียดและเงื่อนไขสัญญาเพิ่มเติมความคุ้มครองสุขภาพด้านต่างๆ เพื่อให้เราเข้าใจประกันแต่ละแบบ นอกจากนั้นก็ยังมีการอบรมเรื่องโครงสร้างการจ่ายผลตอบแทน และก็จะมีการฝึกฝนเพื่อให้เราพร้อมเริ่มทำงาน ซึ่งอาจเป็นการสอนการหาและการสร้างฐานลูกค้า,วิธีการเข้าพบลูกค้า และแนวทางการนำเสนอประกัน, การค้นหาความต้องการและประเมินความจำเป็นในการทำประกันของลูกค้า เพื่อให้แนะนำได้อย่างถูกต้องเหมาะสมซึ่งการฝึกอบรมดังกล่าว จะมีอย่างต่อเนื่องในช่วง 90 วันแรกของการเริ่มเป็นตัวแทน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ที่เราต้องเตรียมพร้อมพัฒนาตัวเองให้ทำงานต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง


“แนวทางการทำงาน”
เมื่อเริ่มต้น เราต้องมี “แผนงาน” ในแต่ละสัปดาห์ก่อน ว่าเราจะติดต่อใคร วันไหน เพื่อขอนัดพบไปแนะนำวางแผนเกี่ยวกับการทำประกันให้ได้บ้าง ซึ่งเราก็ต้องทำงานหนักในการคิดหรือหารายชื่อคนที่เราน่าจะมีโอกาสเข้าพบได้ จากนั้นตลอดสัปดาห์ เราก็เดินทางเข้าพบลูกค้าตามแผนที่เราได้นัดหมายไว้
 โดยระหว่างสัปดาห์ ก็จะมีช่วงเวลาที่ทางหน่วยอาจนัดประชุมเพื่อติดตามงาน ปรึกษากันเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคที่พบเจอมา

 รวมถึงมีการเข้าสัมมนาระหว่างหน่วยที่จะมีตัวแทนจากหน่วยอื่นๆมาแชร์ประสบการณ์ทำงานเป็นตัวอย่างให้ฟัง สำหรับคนที่เป็นตัวแทนที่มีลูกค้าที่ดูแลอยู่แล้วระดับหนึ่ง ก็อาจจะมีกิจกรรมอย่างอื่นทำเพิ่มในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าพบลูกค้าเก่า เพื่อทบทวนแผนประกันเดิม,ติดต่อประสานงานกับบริษัทประกันหรือโรงพยาบาลในการขอประวัติสุขภาพ หรือเอกสารด้านการเคลมให้แก่ลูกค้า, ใช้เวลาศึกษาอบรม หรือเตรียมตัวสอบเกี่ยวกับความรู้ทางการเงินด้านอื่นๆเพิ่มเติม

 ทำการตลาดหรือสร้างเครือข่ายให้ตัวเองด้วยวิธีต่างๆ เช่น ทำ content ลงโซเชียลมีเดียอย่าง  เว็บไซต์ หรือทำกิจกรรมอื่นๆเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับคนใหม่ๆ ตามความสนใจหรือความถนัดของแต่ละคน


"ด้านผลตอบแทน”
คนที่เป็นตัวแทนจะได้รับค่าตอบแทนเป็นค่า “คอมมิชชั่น” ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ จากเบี้ยประกันที่ลูกค้าจ่าย โดยเฉลี่ยอาจจะอยู่ที่ประมาณ 5-40% ของเบี้ยปีแรก (แล้วแต่บริษัท และขึ้นอยู่กับแบบประกันแต่ละแบบ)และจะค่อยๆลดลงในปีถัดๆไปเมื่อลูกค้าจ่ายเบี้ยปีต่อ นอกเหนือจากนี้ แต่ละบริษัทก็มักจะมีเงินโบนัสพิเศษให้ หากยอดขายถึงเงื่อนไขที่กำหนดและเลื่อนตำแหน่งตามผลงานที่ทำใด้ตามเกณท์แต่ละบริษัท


“ทัศนคติสำคัญมาก”
การจะทำอาชีพตัวแทนประกันชีวิตให้ประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืนนั้น ลำพังเพียงการมีความรู้หรือมีทักษะที่ดี ก็อาจไม่เพียงพอ หากเรายังมีทัศนคติและคุณสมบัติในการทำงานที่ไม่เหมาะสม ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมคิดว่า ทัศนคติและคุณสมบัติที่สำคัญของผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จในอาชีพนี้ ควรประกอบไปด้วย


    มีความกระตือรือร้นและทุ่มเทในการเรียนรู้และการพัฒนาตัวเอง  เนื่องจากอาชีพนี้เป็นอาชีพอิสระ ไม่มีใครมาคอยจ้ำจี้จ้ำไชให้เราต้องทำอะไรบ้าง ดังนั้น หากเราอยากเก่งในงาน เราจึงต้องเป็นคนที่สามารถสร้างแรงกระตุ้นในการทำงานให้ตัวเองได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากใคร มีวินัยและความรับผิดชอบ  เนื่องจากประกันเป็นสินค้าการเงินที่มีสัญญาระยะยาว

ดังนั้นงานตัวแทน จึงไม่ใช่งานขายสินค้าที่ซื้อขายกันครั้งเดียวแล้วจบกันไป แต่เป็นงานที่ต้องสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และคอยดูแลให้คำปรึกษากันไปในระยะยาว ที่ถือเป็นความรับผิดชอบที่เป็นหน้าที่สำคัญของตัวแทนที่ดีทุกคน นอกจากนั้นในรูปแบบการทำงานอิสระ ไม่มีใครมาคอยบังคับ เราจึงต้องรู้จักบังคับตัวเองให้ทำงานอย่างสม่ำเสมอ วางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบด้วย


 มีความอดทน และก้าวผ่านอุปสรรคหรือปัญหาได้ไว เพราะตัวแทนประกันชีวิตเป็นอาชีพที่ต้องพบปะผู้คนที่หลากหลาย จึงเลี่ยงไม่ได้ที่เราจะได้พบเจอคนที่อาจจะไม่เห็นด้วย หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เราแนะนำ “คำปฏิเสธ” จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะได้พบเจอ เราจึงต้องก้าวข้ามความผิดหวัง และไปต่อให้ไว ไม่มัวจมอยู่กับปัญหาหรือความผิดหวังที่ผ่านไปแล้ว มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น  ในฐานะที่ปรึกษา ตัวแทนที่ดีจึงควรเป็นคนที่เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น

 โดยพยายามเข้าใจถึงความทุกข์ ความกังวลใจ หรือปัญหาที่ลูกค้าเผชิญอยู่ เพื่อช่วยให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับลูกค้าจริงๆ โดยไม่ถือเอาความคิดของตัวเองเป็นศูนย์กลาง มีความซื่อสัตย์และคิดถึงผลประโยชน์ของผู้อื่นก่อนเสมอ ด้วยความที่เป็นอาชีพที่มีค่าตอบแทนสูง ตัวแทนประกันชีวิตที่ดีจึงต้องระมัดระวังเวลาให้คำแนะนำ ที่จะต้องแนะนำประกันตามความจำเป็นในชีวิตของลูกค้าเป็นที่ตั้ง

ภายใต้ค่าเบี้ยที่เหมาะสมกับฐานะของลูกค้า ไม่ใช่เน้นขายเพื่อผลประโยชน์หรือเป้าหมายของตัวเองไว้ก่อน เราถึงจะได้รับความไว้วางใจ และความน่าเชื่อถือจากลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งในการทำงาน


ตอนที่ผมเข้ามาอาชีพนี้แรกๆ ก็คิดไปต่างๆนาๆ แต่พอเปิดใจเข้ามาเรียนรู้จริงจัง ถึงได้ถึงบางอ้อธุระกิจหรืออาชีพนี้มีระบบแบบแผน กรอบการทำงาน ที่ใครก็สามารถทำได้และสำเร็จได้ การที่ทำอะไรที่ไม่เคยทำนั้นมันยากเสมอ แต่พอเราทำซ้ำๆบ่อยๆ งานนั้นจะกลายเป็นงานง่าย

ลองเปิดโอกาสให้ตัวเองดูนะครับ ถ้ามีคนทำได้ เราก็ต้องทำได้ จริงไหมคะ


ลองคิดเล่นๆดูนะคะ เบี้ยประกันรวมหลักแสนล้าน คิดเล่นๆค่าคอม 10%(จริงคอมมิสชั่น 40%) รวมเป็นเงินเท่าไหร่? เงินจำนวนนี้ก็อยู่ในมือของตัวแทนประกันชีวิตที่มีใบอนุญาตที่อยู่ไม่กี่คนนั้นเองในประเทศ ธุรกิจประกันชีวิตยังเติบโตได้อีกมากมายมหาศาล

งานนี้เขาถึงเรียกว่าคนในไม่อยากออกคนนอกไม่อยากเข้าจริงๆ



แบบประกันที่น่าสนใจ

ประกันสุขภาพ ไม่เคลมมีคืน                  ประกัน 108 โรคจ่ายทุกระยะ

ประกันชดเชยโรคร้ายแรง                         ประกันชดเชยเด็ก 0-5 ปี 

ประกันสุขภาพ เหมาจ่าย 10 ล้าน             ประกันควบการลงทุน ลดหย่อนภาษี

ประกัน สินเชื่อบ้าน,สหกรณ์                      ประกันสุขภาพเด็ก

 ประกันสุขภาพผู้สูงวัย  



สนใจทำประกันชีวิต คลิ๊ก!!!! 

สมัครเป็นตัวแทน คลิ๊ก!!!!

ติดต่อเจ้าหน้าที่ด้านล่าง หรือ กด แอดไลน์ Add Line








ให้เราดูแลคุณสนใจติดต่อตัวแทน

กัลณิภรณ์ กัญวินิจธรณ์

เบอร์ติดต่อ